วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

อัศจรรย์สรรพคุณสมุนไพรกวาวเครือเเดงสำหรับท่านชาย

กวาวเครือแดง ประโยชน์สรรพคุณและงานวิจัยข้อดีข้อเสีย

ชื่อสมุนไพร  กวาวเครือแดง
ชื่อประจำถิ่น  กวาวเครือ (เหนือ)   จานเครือ  (อีสาน)   ตานจอมทอง  (ชุมพร)  โพตะกุ , โพมือ  (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Butea superba  Roxb
ชื่อวงศ์  Leguminosae  วงค์ย่อย   Papilonaceae

ถิ่นกำเนิดกวาวเครือเเดง

พบอยู่มากในบริเวณที่ราบตีนเขา แล้วก็ เชิงเขาป่าเต็งรัง  เทือกเขาหินปูน  ในบริเวณที่มีต้นไม้ยืนต้นไม่หนาแน่นนัก  พบได้ทั่วไปอยู่เป็นกรุ๊ปๆข้างในป่า  อาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากสาเหตุ คือ ติดฝักได้น้อย  ฝักมีขนาดใหญ่ ทำให้แพร่ขยายตำแหน่งเดิมได้ยาก  ต้นกวาวเครือแดง ที่สร้างพุ่มเอง จะมีลักษณะเตี้ย  ส่วนต้นที่เกี่ยวเนื่องกับต้นไม้ใหญ่จะแตกกิ่งไปถึงยอดไม้

ลักษณะทั่วไปของกวาวเครือแดง

กวาวเครือแดงอยู่ในจำพวกไม้เลื้อย เป็นเถาวัลย์ เนื้อแข็ง มักชอบพาดขึ้นกับต้นไม้ใหญ่

  • ใบกวาวเครือแดง ใบใหญ่คล้ายใบต้นทองคำกวาว  แต่ใบใหญ่กว่า
  • ดอกกวาวเครือแดง ดอกใหญ่เหมือนดอกแคแสด  แต่ว่าเป็นพวงระย้าเหมือนดอกทองกวาว
  • หัวกวาวเครือแดง มีหลายขนาดลักษณะทรงกระบอก เมื่อสะกิดที่เปลือก จะมียางสีแดง คล้ายเลือดไหลออกมา
  • รากกวาวเครือแดง มีรากแขนงขนาดใหญ่  แยกจากเหง้าเลื้อยไปรอบๆหลายเมตร 

การขยายพันธุ์กวาวเครือแดง ทำได้ 3วิธีดังนี้|ดังต่อไปนี้

  • การเพาะเมล็ด โดยการเพาะเม็ดในกระบะเถ้าแกลบราว 45 วัน นำต้นกล้าที่ได้ ปลูกลงถุงเพาะชำโดยใช้ดิน 2 ส่วน เถ้าแกลบ 1 ส่วน เปลือกมะพร้าว 1 ส่วน ค่า pH ราวๆ 5.5 เมื่อต้นกล้าเจริญเติบโตได้ 60 วัน ก็เลยนำลงแปลงปลูกที่โล่งแจ้ง  โดยการทำด้วยไม้ไผ่  หรือปลูกร่วมกับไม้ยืนต้นในกรรมวิธีเกษตร อาทิเช่น ไผ่  สัก  ปอสา  หรือไม้ผลอื่นๆ พื้นที่ปลูกควรจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล  300-900 เมตร
  • การปักชำ นำเถาที่มีข้อมาปักชำในกระบะ หรือถุงที่ใส่เถ้าแกลบ  เมื่อเถาแตกรากรวมทั้งยอดแข็งแรงก็ดีแล้ว จึงนำลงแปลงปลูกต่อไป
  • การแบ่งหัวต่อต้น หัวของกวาวเครือ ไม่มีตาที่จะแตกฯลฯใหม่  จำเป็นต้องใช้ส่วนของลำต้นมาต่อเชื่อตามวิธีการแพร่พันธุ์แบบต่อราก  เลี้ยงกิ่ง (nursed root grafting)  สามารถนำหัวกวาวเครือขนาดเล็ก อายุราว 6 เดือนขึ้นไป  และต้นหรือเถาที่เคยทิ้งไปข้างหลังการเก็บเกี่ยวมาแพร่พันธุ์ได้ ข้างหลังการต่อต้นประมาณ 45-60 วัน ก็สามารถนำลงปลูกได้ แล้วก็มีคุณลักษณะเด่นก็คือสามารถต่อต้นกับหัวผ่านสายพันธุ์ได้

องค์ประกอบทางเคมีของกวาวเครือแดง

            ท่อนหัวของกวาวเครือแดงประกอบด้วยสารไฟโตแอนโดรเจน และก็ไอโซฟลาโม้ลิกแนน 2 ชนิด ยกตัวอย่างเช่น Mebicarpin (carpin 3-hydroxy-9methoxypterocarpan); สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ ดังเช่นว่า butenin; formononetin (7-hydroxy_-methoxy-isoflavone); (7,4_-dimethoxyisoflayone); 5,4_-dihydroxy-7-methoxy-isoflavone, 7-hydroxy-6,4_-dimethoxyisoflavone

แอนโทไซยานินมีค่าการดูดกลืนแสงสว่างในช่วงคลื่น  510-540นาโนเมตร  สารละลายแอนโทไซยานินมีความเคลื่อนไหวสีตามค่าความเป็นด่าง (pH) ต่ำจะมีสีแดง pH ปานกลางจะมีสีน้ำเงินม่วงและเมื่อ pH สูงจะมีสีเหลืองซีด

สรรพคุณกวาวเครือแดง

  • หัวกวาวเครือแดง รสเย็นเบื่อเมา  บำรุงเนื้อหนังให้เต่งตึง  บำรุงสุขภาพ  เพิ่มน้ำเชื้อ เป็นยาอายุวัฒนะ

แก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตามร่างกาย

  • รากกวาวเครือแดง แก้ลมอัมพาต  บำรุงโลหิต  ผสมกับรากสมุนไพรอื่นอีก 8 ประเภทเรียกว่า  พิกัดนวโลหะ  แก้โรคลมที่เป็นพิษ  แก้ริดสีดวง  ทำลายพยาธิ  ดับพิษ  ถอนพิษไข้  สมานลำไส้
  • เปลือกเถากวาวเครือแดง รสเย็นเบื่อเมา  แก้พิษงู

ผลดีกวาวเครือแดง

ฤทธิ์ต่อระบบแพร่พันธุ์  การศึกษาเล่าเรียนในอาสาสมัครผู้ชาย 17 คน อายุระหว่าง 30 – 70 ปี ที่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศอย่างน้อย 6 เดือน  ให้รับประทานกวาวเครือแดงขนาด 250 มก./แคปซูล วันละ 4 แคปซูล เป็นเวลา 3 เดือน ผลการศึกษาเรียนรู้พบว่าระดับฮอร์โมน testosterone ไม่มีความแตกต่างจากกรุ๊ปควบคุม  แต่ผลจาการตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับดรรชนีชี้วัดความสามารถทางเพศ  จากอาสาสมัครพบว่าทำให้ความสามารถทางเพศ  82.4 % ด้วยเหตุผลดังกล่าว กวาวเครือแดงก็เลยช่วยฟื้นฟูคนไข้โรคเสื่อมความสามารถทางเพศได้ และไม่เจอการเกิดพิษ

รูปแบบและขนาดวิธีใช้กวาวเครือแดง

องค์การอาหารแล้วก็ยาของไทย  ระบุขนาดและก็การใช้สำหรับในการรับประทานกวาวเครือแดง  ไม่เกิน  2 มิลลิกรัม  ต่อน้ำหนักตัว  1  กิโล  ต่อวัน

การศึกษาทางเภสัชวิทยาของกวาวเครือแดง

ฤทธิ์ต่อระบบขยายพันธุ์  การทดสอบป้อนกวาวเครือแดงในรูปผงป่นละลายน้ำ  และก็สารสกัดเอทานอล  ให้แก่หนูแรทเพศผู้  ความเข้มข้น 0.25 , 0.5 รวมทั้ง 5 มก./มล.  พบว่าหนูแรทที่ได้รับผงกวาวเครือแดงแบบละลายน้ำเข้มข้น 0.5 รวมทั้ง 5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร เป็นเวลา  21  วัน  ทำให้น้ำหนักตัวของหนูแรท  และก็ปริมาณน้ำเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ  และก็หนูแรทที่ได้รับสารสกัดเอทานอลเข้มข้น 5 มก./มล. 21 วัน มีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles ต่อมลูกหมาก  แล้วก็ความยาวขององคชาติ  ทำให้หนูแรทมีพฤติกรรมการสิบประเภทมากเพิ่มขึ้น  เมื่อศึกษาต่อไปถึงระยะ 42 วัน พบว่าหนูแรทที่ได้รับผงกวาวเครือแดงแบบละลายน้ำ มีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles ต่อมลูกหมาก และความยาวขององคชาติ  รวมทั้งพฤติกรรมการสืบเผ่าพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ  แต่ว่าหนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดเอทานอล  กลับมีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles  น้อยลง  การเรียนรู้ผลของกวาวเครือแดงในระยะยาว  รวมทั้งในจำนวนสารสกัดที่มากขึ้น  พบว่าทำให้ระดับฮอร์โมน testosterone ของหนูแรทลดน้อยลง  และจำนวนเอนไซม์ตับสูงมากขึ้น  ด้วยเหตุนั้นการรับประทานกวาวเครือแดงมากจนเกินไป อาจจะทำให้กำเนิดพิษต่อตับได้

การศึกษาทางพิษวิทยากวาวเครือแดง

การเรียนรู้พิษครึ่งหนึ่งเรื้อรังในหนูวิสตาร์เพศผู้โดยป้อนผงกวาวเครือแดงในขนาด 10 , 100 , 150 และก็ 200  มก./กก/วัน  ตรงเวลา 90 วัน  พบว่าหนูที่รับในขนาด   150  มิลลิกรัม/กก/วัน  น้ำหนักของม้ามมากขึ้น ระดับโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี alkalinephosphatase (ALP) และก็ aspartate aminotransferase (AST) มากขึ้น หนูที่ได้รับขนาด 200 มิลลิกรัม/กก/วัน พบว่ามีเม็ดเลือดขาวประเภท neutrophil น้อยลง ส่วนเม็ดเลือดขาวจำพวก eosinophil ระดับ serum creatinine  ลดลงระดับฮอร์โมน testosterone ลดลง ด้วยเหตุนี้จะต้องรอบคอบการใช้ในขนาดสูงเหตุเพราะอาจจะก่อให้กำเนิดอาการอันไม่ประสงค์ต่างๆได้

ข้อแนะนำข้อควรระวัง

พืชชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นยา เหมือนกันกับกวาวเครือขาว แต่ว่าเป็นพิษมากยิ่งกว่า  ถ้าเกิดรับประทานมากมายอาจเกิดอันตรายได้อาจทำให้เมาคลื่นไส้อ้วก.และเป็นพิษเมามากกว่ากวาวเครือขาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หญิงจำเป็นต้องรักษาสุขภาพด้วยสมุนไพรว่านชักมดลูก

สรรพคุณอันน่าทึ่ง 35 ประการของว่านชักมดลูก ขายว่านชักมดลูก มีความปลอดภัยมากยิ่งกว่า กวาวเครือขาว และยังช่วยทำให้ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น  ...