วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

กวาวเครือขาว คุณลักษณะที่คุณผู้หญิงควรทราบ

กวาวเครือขาว ประโยชน์คุณประโยชน์ รวมทั้งการค้นคว้าข้อดีข้อเสีย
กวาวเครือขาว ผลดีกวาวคุณประโยชน์ รวมทั้งงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัย
ชื่อสมุนไพร กวาวเครือขาว
ชื่ออื่นๆ/ ชื่อประจำถิ่น กวาวเครือ , จานเครือ (อีสาน) ,ตานเครือ , ทองเครือ , จอมทองคำ , (ใต้) ตานจอมทองคำ (ชุมพร) โพ้ต้น ( จังหวัดกาญจนบุรี) .โพะตะกู
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pueraia candollei Graham ex Benth. Var mirifica
ชื่อตระกูล Leguminosae-Papilionoideae

บ้านเกิดเมืองนอน
กวาวเครือขาวเป็นพืชที่ขึ้นรอบๆป่าเบญจพรรณ เจอกระจากทั่วๆไปตั้งแต่ ประเทศอินเดีย กลุ่มประเทศอินโดจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน ญี่ปุ่น และ ไทย สำหรับในประเทศไทย เจอกระจากในป่าเบญจพรรณในภาคเหนือ ภาคตะวันตก แล้วก็ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่จะพบได้ทั่วไปในภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีอินทรีย์สารสูงตามชายป่า ดินที่มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างราวๆ 5.5 ที่สูงจาก

ระดับน้ำทะเล 300 – 800 เมตร ในสภาพธรรมชาติมีการตะกร้าจำพวกด้วยเมล็ด โดยดังนี้พบว่าจะมีการออกดองตอนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมและก็ติดฝักในเดือนเมษายน สามารถพบกวาวเครือขาวพันอยู่กับต้นไม้ใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นสักในจังหวัดกาญจนบุรี ตาก จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงใหม่ ในรอบๆที่เป็นดงไผ่ในจังหวัดกาญจนบุรี สระบุรี จังหวัดลพบุรี ชัยภูมิ พบว่ามีกวาวเครือขาวกระจากจำพวกอยู่เจริญเหมือนกัน
ลักษณะทั่วไปของกวาวเครือขาว
กวาวเครือขาวเดินถูกให้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Butea superba Roxb. เป็นพืชตระกูลถั่ว ขึ้นในป่าเบญจพรรณ ลักษณะเป็นไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ ผลัดใบ เลื้อยพิงพันบนต้นไม้เปียกชื้น
ลำต้นหมดจด บางทีอาจยาวถึง 5 เมตร ใบเป็นในประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ (Pinnately trifoliate) เรียงสลับกันปลายใบมีลักษณ์รูปไข่ปลายแหลม เนื้อใบด้านบนหมดจดข้างล่างมีขนสั้นๆเรี่ยรายเส้นกิ้งก้านใบข้างละ 5 – 7 เส้น ใบย่อยด้านข้างโคนมีลักษณะเบี้ยว หูใบรูปไข่ มีเยื่อก้านใบเห็นชัดแจ้ง ใบตกแต่งมีลักษณะเป็นเกล็ดมีขนาดเล็กมากมาย
ดอกออกในระยะผลัดใบ เป็นช่อยาวราวๆ 30 ซม. ดอกจะออกตามาซอกกิ่ง ข่อดอกเป็นข่อเดี่ยวรวมทั้งช่อแยกกิ้งก้านออกปลายกิ่ง ดอกมีกลีบแต่งแต้มรองรับ ดอกย่อยเป็นรูปถั่วเป็นดอกบริบูรณ์เพศมีทั้งหมดศผู้และก็เพศภรรยาในดอกเดียวกัน ทรงดอกเป็นแบบ Zygomorphic แบบที่เรียกว่า Papilionacaceous form ดอกมีกลีบ 5 กลีบ ที่มีขนาดแล้วก็ลักษณะแตกต่างกัน กลีบที่อยู่นอกสุดมีขนาดใหญ่สุด เรียกว่ากลีบ Standard กลีบที่ตามติดอยู่ทางข้างๆทั้งคู่ มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นงอนโค้งคล้ายปีกนกเรียกว่า กลีบ wing กลีบที่อยู่ภายในสุด 2 กลีบ จะเชื่อมรวมกันเป็นกระพุ้งคล้ายท้องเรือ เรียกว่า กลีบ (keel) เป็นกลีบที่ห่อเกสรไว้ มีก้านยกอับเรณูติดกัน ดอกมีสีฟ้าอมม่วงถึงสีน้ำเงิน 2 – 3 ดอกต่อช่อ มีเกสรตัวผู้ 10 อัน รังไข่ยาวเป็นแบบ superior ภายในมี 1 ห้องมีเม็ดไข่อยู่ด้านใน
ฝักมีลักษณะแบน เมื่อแก่มีสีออกน้ำตาล ผิวมีขนสั้นๆประปรายถึงเกลี้ยง ฝักมีความกว้างโดยประมาณ 7 มม. ยาวโดยประมาณ 3 เซนติเมตร มีเมล็ด 3 – 5 เม็ดต่อฝัก เม็ดมีลักษณะกลมมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 2 – 4 เซนติเมตร เมล็ดแก่จะมีลายสีเขียวผสมม่วง หรือ สีน้ำตาลคละเคล้าม่วง
หัวเป็นหัวใต้ดินเหมือนหัวมันแกว (Tiberous root) จะมีฤทธิ์ทางยามากในตอนที่ผลัดใบ มีหลายขนาด หัวที่มีอายุมากมีขนาดใหญ่ อาจมีน้ำหนักสูงถึง 20 กิโล ที่เปลือก เมื่อเอามีดปาดจะมียางสีขาวเหมือนน้ำนม เนื้อในสีขาวคล้ายมันแกว เนื้อจะเปราะ มีเส้นมากมาย รสเย็นเบื่อเมา หัวที่ยังเล็ก เนื้อในจะละเอียด มีน้ำมาก
การขยายพันธุ์กวาวเครือขาว
แพร่พันธุ์โดยการปลูกแบบเพาะเม็ด โดยอาจเริ่มโดยการผลิตต้นพันธุ์จากเมล็ดหรือโดยวิธีอื่น การสร้างต้นชนิดจากเม็ดต้องรอเก็บเมล็ดในช่วงต้นถึงกึ่งกลางหน้าร้อน ด้วยเหตุว่ากวาวเครือขาวมีดอกติดฝักในตอนกลางหน้าหนาวจนถึงกึ่งกลางหน้าร้อน บ่อเกิดของเม็ดเป็นต้นกวาวเครือขาวที่อยู่ในป่า แกะเมล็ดออกมาจากฝัก เก็บไว้ในที่แห้งหรือในภาชนะที่มีการระบายอากาศได้ ทำเพาะเมล็ดในกระบะใส่ดินผสมปุ๋ยอินทรีย์โดยให้เมล็ดถูกฝังกลบไว้ลึกราว 1 ซม. รดน้ำให้เปียกแฉะทุกเมื่อเชื่อวัน แนะนำให้ทำเพาะเม็ดในช่วงที่อากาศร้อนจัดที่สุด ความร้อนจะช่วยทำให้เมล็ดแตกหน่อได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปเมล็ดที่เก็บจากฝักที่แห้งค้างต้นแล้วเอามาเพาะในปีนั้นจะมีอัตราการงอกแทบ 100% เม็ดที่ถูกเก็บไว้ข้ามปีจะมีอัตรางอกต่ำลง
องค์ประกอบทางเคมี
หัวกวาวเครือขาวมีสารที่เป็นประโยชน์อยู่อีกหลากหลายประเภทและสารที่ออกฤทธิ์เหมือนฮอร์โมน เอสโตรเจน นอกจากนี้ยังพบข้อมูลทางด้านโภชนาการดังต่อไปนี้




________________________________________
ส่วนประกอบ ปริมาณ (เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักแห้ง)
________________________________________
พลังงานจากไขมัน 5.85 แคลอรีต่อ 100 กรัม
คาร์โบไฮเดรตรวม 67.66
ไฟเบอร์รวม (dietary Fiber) 20.39
น้ำตาลรวม (Total Sugar) 19.35
คาร์โบไฮเดรต อื่นๆ 27.92
โปรตีน 7.88
ไขมัน 0.66
แคลเซี่ยม 7.56
เหล็ก 0.029
พลังงานรวม 308.01 แคลอรีต่อ 100 กรัม
________________________________________

ส่วนประกอบทางเคมีของหัวกวาวเครือขาว (Pueraria mirifica)
ที่มา : ชาลีแล้วก็วันชัย (2544)

ส่วนสาระสำคัญกรุ๊ปต่างๆ
ที่เจอในกวาวเครือขาวสามารถแบ่งเป็นกรุ๊ปๆได้ดังต่อไปนี้
7.1 สารกลุ่มคูมารินส์ (Coumarins)
เป็นต้นว่า Coumestrol, Mirificoumestan, Mirificoumestan Glycol รวมทั้ง Mirificoumestan hydrate

สูตรองค์ประกอบทางเคมีของ Coumestrol
ที่มา : สุนิสา (2552)

สูตรองค์ประกอบทางเคมีของ Mirificoumestam
ที่มา : สุนิสา (2552)

7.2 สารกรุ๊ปฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)
โดยในหัวกวาวเครือขาวมีสารประเภท lsoflavonoid หลายอย่าง ดังเช่น Genistain, Daidzein, Daidzin, Puerarin, Puerein-6-monoacetate, Mirificin, Kwakhurin รวมทั้ง Kwakhurin hydrate

Genistein : R1 = H , R2 = OH
Daidzein : R1 = H , R2 = H
Puerarin : R1 –Glucose, R2 = H
Mirificin : Glucose – Apiose , R2 = E
สูตรโครงสร้างทางเคมีของสารกรุ๊ป Flavonoids
ที่มา : สุนิสา (2552)
7.3 สารกรุ๊ปโครมีน (Chromene)
สาระสำคัญลำดับหนึ่งในกวาวเครือ อาทิเช่น Miroestrol ซึ่งเป็นสารที่มีรายงานว่ามีฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจน พบจำนวน 0.002 – 0.003 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักหัวแห้ง หรือราว 15 มก.ต่อโลของกวาวเครือแห้ง มีรูปผลึก 2 แบบ คือ แบบที่มีน้ำหนักอยู่ในผลึก (hydrate form) ลักษณะเป็นรูปเข้มอ้วน และก็แบบผลึกที่ไม่มีน้ำอยู่ในผลึก (anhydrate form) มีลักษณะเป็นแผ่น ไม่มีสี มีจุดหลอมเหลว 268 – 270 องศาเซลเซียส

สูตรองค์ประกอบทางเคมีของ Miroestrol
ที่มา : สุนิสา (2552)

7.4 สารกลุ่มสเตียรอยด์ (steroids)
สเตียรอยด์ที่พบในหัวกวาวเครือ เช่น B-sitosterol, Stigmasterol, Pueraria แล้วก็ Mirificasterol
7.5 สารประกอบอื่นๆ
นอกจากสารกรุ๊ปที่กล่าวแล้วข้างต้น ในหัวกวาวเครือขาวยังมีสารพวกแอลเคน แอลกอฮอร์รวมทั้งสารพวกไขมัน คือ Puereria, Mififica glyceride lithium, Potassium, Sodium, Phosphate, แคลเซียม, โปรตีน, ไขมัน, รวมทั้งเส้นใย ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสารชนิด Saponim อยู่อีกหลายประเภท
ซึ่งสารต่างๆเหล่านี้หลากหลายประเภทมีคุณลักษณะเป็นไฟโตเอสโตรเจน (phytoestrogen) ซึ่งมีความหมายว่าเป็นเอสโตรเจนที่ได้จากพึชและออกฤทธิ์เหมือนกับฮอร์โมนเอสโตรเจนทุกสิ่ง หรืออาจหมายคือสารที่ออกฤทธิ์ที่ตัวรับ (Receptor) เดียวกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งปัจจุบันเข้าใจแล้วว่า receptor นี้มี 2 Subtypeเป็นestrogen receptor alpha แล้วก็ beta subtype เดี๋ยวนี้ไฟโตเอสโตรเจนที่มีอยู่ในกวาวเครือขาวสามารถแบ่งได้เป็นสารที่มีความแรงสูงรวมทั้งความแรงต่ำ โดยกลุ่มที่มีความรุนแรงต่ำ อย่างเช่น Coumestrol, Daidzein, Daidzin, Genistin, Genistein, Mirificn และ Puerarin
สรรพคุณกวาวเครือขาว
หัว รสเย็นเบื่อเมา บำรุงเนื้อหนังให้เต่งตึง บำรุงสุขภาพ บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะสำหรับคนวัยแก่ แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้หมดแรง ผอมโซ นอนไม่หลับ มีฮอร์โมนเพศหญิงสูง ทาหรือรับประทานทำให้เต้านพขยายตัว เส้นผมดกดำ เพิ่มเส้นผม เป็นยาปรับรอบเดือนอาจจะทำให้แท้งบุตรได้ บำรุงความกำหนัด ทำให้อวัยวะสืบพันธุ์แล้วก็มดลูกมีเลือดมาคั่งมากเพิ่มขึ้น บำรุงอวัยวะสืบพันธุ์ให้รุ่งโรจน์ แก้โรคจาฟาง ต้อกระจก ทำให้ความจำดี ทำให้มีพลัง ขยับเขยื้อนกระปรี้กระเปร่า บำรุงโลหิต กินได้นอนหลับ ผิวหนังเต่งตึงมีน้ำมีนวล ช่วยลดลักษณะของสตรีวัยหมดประจำเดือน โดยมีการศึกษาฤทธิ์ขของกวาวเครือขาวต่อการลดอาการร้อนวูบวาบ มีฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระแล้วก็ช่วยทำให้เรื่องของความจำและการเล่าเรียน ช่วยลดอาการช่องคลอดแห้งในสตรีวัยหมดระดูได้
ต้นแบบและขนาดการใช้กวาวเครือขาว
สถาบันการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข เจาะจงขนาดการใช้ดังนี้
การใช้เป็นองค์ประกอบในตำรับบำรุงปิ้งกาย ให้กินยาตำรับที่มีส่วนประกอบของผงกวาวเครือขาว ไม่เกิน 1 – 2 มก. ต่อกิโลกรัมต่อวัน หรือโดยประมาณวันละไม่เกิน 50 – 100 มก. อาการข้างเคียงที่บางทีอาจเจอได้เป็น เจ็บเต้านม มีเลือดออกไม่ปกติทางช่องคลอด ปวดหรือเวียนหัว อ้วกอาเจียน
หนังสือเรียนยาของหลวงอนุสารไพเราะ
กำหนดขนาดที่ใช้ของหัวกวาวเครือขาว โดยให้รับประทานกวาวเครือขาวผสมน้ำผึ้ง ขนาดเท่าเมล็ดพริกไทย 1 เม็ดต่อวัน รับประทานมากมายจะมีผลให้มึนเมาเป็นพิษคนหนุ่มสาวไม่ควรรับประทาน
การศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยาของกวาวเครือขาว
การทดลองในหนูเพศเมียที่กินกวาวเครือขาวพบว่า ส่งผลยั้งการให้นมของหนูที่กำลังให้นม โดยไปยังยั้งการเจริญของต่อมน้ำนม และการสร้างน้ำนม ส่งผลปกป้องการท้อง เมื่อให้หนูกินในตอนตั้งครรภ์วันที่ 1 – 10 ติดต่อกัน หรือให้กินในตอนที่มีการเปลี่ยนที่ของตัวอ่อน โดยทำให้มากเกินแท้ง และเมื่อให้ในหนูที่ตัดรังไข่ออก กินกวาวเครือพบว่าน้ำหนักของมดลูกและปริมาณของเหลวในมดลูกมากขึ้น เช่นเดียวกับที่พบในหนูที่ได้รับ ethinyl estradiol รวมทั้งมีกล่าวว่ากวาวเครือขาวมีฤทธิ์คุมกำเนิดที่ดีในหนูขาวเมื่อให้ในขนาด 1 กรัม/ตัว/อาทิตย์ ส่วนผลของกวาวเครือขาวต่อหนูเพศผู้พบว่าสัตว์มีความประพฤติปฏิบัติการขยายพันธุ์ลดลง แล้วก็มีขนาด และน้ำหนักอัณฑะ epididymis ต่อมลูกหมาก และ seminal vesicles น้อยลง และมีปริมาณตัวน้ำเชื้อ และก็เปอร์เซ็นต์การเคลื่อนไหวของตัวน้ำอสุจิน้อยลง
การเรียนทางสถานพยาบาลในระยะที่ 2 ในอาสาสมัครกรุ๊ปก่อนรวมทั้งข้างหลังวัยหมดประจำเดือน ที่มีลักษณะพร่องฮอร์โมนเอสโตรเจน ปริมาณ 37 ราย ใช้เวลา 6 เดือน พบคะแนนของงอาการวัยหมดระดูลดน้อยลงจาก 35.6 เป็น 15.1 และ 32.6 เป็น 13.69 ในกรุ๊ปที่ได้รับ 50 มิลลิกรัมต่อวัน แล้วก็ 100 มก.ต่อวัน เป็นลำดับ แต่ว่าพบอาการข้างเคียงเป็นอาการคัดเลือกตึงเต้านมราวๆร้อยละ 35 แล้วก็อาการเลือดออกกระปริดกระปรอยราวๆปริมาณร้อยละ 16.2

การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยาของกวาวเครือขาว
การเรียนรู้พิษรุนแรงของผงหัวกวาวเครือขาวในรูปผงยาห้อยขี้ตะกอนในน้ำ พบว่าไม่นำไปสู่อาการพิษทันควันในหนูถีบจักร ขนาดที่ทำให้สัตว์ทดสอบตายครึ่งหนึ่ง (LD50) มีค่ามากกว่า 16 กิโล / น้ำหนักตัว 1 กก. การทดลองพิษครึ่งหนึ่งเรื้อรังในหนูขาวพันธุ์วิสตาร์โดยการป้อนผงหัวกวาวเครือขาวในรูปผงยาแขวนตะกอนในน้ำ ขนาด 10 แล้วก็ 100 มก./กก./วัน ไม่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความเปลี่ยนไปจากปกติต่อค่าเลือดวิทยา รวมทั้งค่าทางวิชาชีวเคมี หรือพยาธิสภาพใดๆก็ตามแต่การให้ในขนาด 1000 มิลลิกรัม/กก./วัน ทำให้หนูเกิดภาวะโลหิตจาง จำนวนเม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด ระดับวัวเลสเตอรอคอยล น้ำหนักอัณฑะ ของหนูเพศผู้ต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ และมีอัตราการเกิด hyperemia ของอัณฑะ ในหนูเพศเมียที่ได้รับในขนาด 100 แล้วก็ 1000 มก./กิโลกรัม/วัน พบว่าระดับโคเลสเตอคอยลน้อยลง มดลูกบวมเต่ง มีอัตราการเกิด cast ที่ไตสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ข้อเสนอแนะ
หากกินเกินขนาด จะก่อให้เกิดอันตรายได้ ทำให้มีอาการมึนเมา อาเจียน อ้วก ห้ามใช้ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ เพราะสารที่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงในกวาวเครือขาวมีความแรงของตัวยาจะก่อกวนรูปแบบการทำงานของฮอร์โมนเพศ รวมทั้งระบบรอบเดือนได้
ข้อควรไตร่ตรอง ห้ามรับประทานเกินขนาดที่ชี้แนะให้ใช้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หญิงจำเป็นต้องรักษาสุขภาพด้วยสมุนไพรว่านชักมดลูก

สรรพคุณอันน่าทึ่ง 35 ประการของว่านชักมดลูก ขายว่านชักมดลูก มีความปลอดภัยมากยิ่งกว่า กวาวเครือขาว และยังช่วยทำให้ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น  ...