วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560

กระชายดำ ประโยชน์สรรพคุณ และก็งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยจุดเด่นข้อตำหนิ

กระชายดำ ประโยชน์สรรพคุณ และงานวิจัยข้อดีข้อเสีย

ชื่อสมุนไพร กระชายดำ

ชื่ออื่นๆ/ ชื่อท้องถิ่น กระชายม่วง , ว่านเพชรดำ , ขิงทราย (มหาสารคาม) , ว่านตะลึง , ว่านพญานกยูง , ว่านว่านกำบัง ,ว่านกำบัง , ว่านกำบังภัย , กะแอน . ระแอน (ภาคเหนือ)

ชื่อวิทยาศาสตร์ Kaempferia parviflora Wallich. ex Baker

ชื่อวงศ์Zingiberaceae

ถิ่นกำเนิดกระชายดำ

มีบ้านเกิดเมืองนอนในเอเซียอาคเนย์ พบได้หนาแน่นในแถบมาเลเซีย เกะสุมาตรา เกาะบอร์เนียว อินโดจีน รวมทั้งในประเทศไทย และมีเขตการกระจายจำพวกทั่วๆไปในทวีปเอเชียเขตร้อน ในประเทศจีนตอนใต้ อินเดีย แล้วก็เมียนมาร์ สำหรับเมืองไทยนั้นมีการปลูกกระชายดำมากมายในจังหวัดเลย ตาก กาญจนบุรี รวมทั้งจังหวัดอื่นๆทางภาคเหนือ

ลักษณะทั่วไปของกระชายดำ

กระชายดำจัดเป็นไม้ล้มลุกแก่ยาวนานหลายปีมีเหง้าอยู่โต้ดิน โดยในแต่ละส่วนมีเนื้อหาดังนี้

  • เหง้ากระชายดำ นั้นมีลักษณะเป็นทรงกลม เป็นปุ่มป่นเรียงต่อกัน รวมทั้งมักมีขนาดเท่าๆกัน มีหลายเหง้าและอวบน้ำ ผิวเหง้ามีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาบเข้ม แล้วก็บางทีอาจพบรอยที่ผิวเหง้าเป็นบริเวณที่จะผลิออกของต้นใหม่ ส่วนเนื้อข้างในชองเหง้ามีสีม่วงอ่อน สีม่วงเข้ม ไปจนกระทั่งม่วงดำ เหง้ามีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รวมทั้งมีรสชาติขมเล็กน้อย โดยกระชายดำที่ดีนั้นต้องมีสีม่วงเข้มถึงสีดำ
  • ใบกระชายดำ มีใบเป็นใบลำพัง ลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปไข่ มีความกว้างประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร แล้วก็ยาวราวๆ 10 – 15 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ขอบของใบหยักตามเส้นใบ ผิว ในเป็นร่องคลื่นตลอดใบตามแนวของเส้นใบ ใบมีสีเขียวสด ส่วนโคนก้านใบมีลักษณะเป็นกาบห่อลำต้นไว้ ขอบก้านใบมีสีแดงตลอดความยาวของก้าน ศูนย์กลางก้านเป็นร่องลึก
  • ดอกกระชายดำ ดอกออกเป็นช่อแทรกขึ้นมาจากโคนกาบใบ ก้านช่อดอกมีความยาวราวๆ 5 – 6 เซนติเมตร กลีบที่ส่วนโคนเชื่อมเป็นหลอด ยาวโดยประมาณ 3 - 3.2 เซนติเมตร ที่ปลายแยกเป็นแฉก เกสรตัวผู้เป็นหมัน มีสีขาว ลักษณะเป็นรูปขอบขนาด มีความกว้างราว 3 มิลลิเมตร แล้วก็ยาวโดยประมาณ 10 -13 มม. ส่วนกลีบปลายมีสีม่วง

การขยายพันธุ์กระชายดำ

แพร่พันธุ์โดยการใช้หัวหรือแยกหน่อ ปลูกได้ทั้งปี แต่ฤดูที่สมควรอยู่ในระหว่างเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม การเตรียมหัวกระชายดำสำหรับปลูก หัวกระชายดำหัวหนึ่งจะมีหลายแง่ง ให้บิ (หัก) ออกมาเป็นแง่งๆหากแง่งเล็กก็ 2 – 3 แง่ง ถ้าแง่งใหญ่สมบูรณ์ก็แค่แง่งเดียวก็เพียงพอ เพราะเหตุว่าเมื่อกระชายดำโตขึ้น กระชายดำก็จะแตกหน่อ และเกิดหัวกระชายดำหัวใหม่ขึ้นมาแทน แล้วก็จะขยายหัวรวมทั้งหน่อออกไปเรื่อยจะมากมายหรือน้อยขึ้นอยู่กับการดูแลและรักษา ส่วนหัวหรือแง่งที่ใช้ปลูกเอาไว้ในช่วงแรกที่เหี่ยวเฉาและก็แห้งไปท้ายที่สุด ก่อนนำไปปลูก ควรทารอยแผลของแง่งกระชายดำที่ถูกหักมาด้วยปูนรับประทานหมาก หรือจะจุ่มน้ำยากันเชื้อราก็ได้ แล้วผึ่งในที่ร่มจนถึงหมดหรือแห้ง แล้วหลังจากนั้นก็ให้นำไปปลูก การปลูกกระชายดำก็อย่างกับการปลูกกระชายธรรมดาโดยธรรมดา สามารถปลุกก้าวหน้าในดินร่วนซุย การระบายน้ำดี แต่ว่าระวังไม่ให้อุทกภัยขัง เพราะจะทำให้หัวหรือเหง้าบูดเน่าได้ง่ายส่วนในดินเหนียว รวมทั้งดินแดงไม่ค่อยจะสมควรนัก โดยธรรมชาติและก็กระชายดำขอบขึ้นตามร่มไม้ในป่าดงดิบ แล้วก็ป่าเบญจพรรณทั่วๆไป แต่ว่าในก็สามารถปลูกได้

องค์ประกอบทางเคมีของกระชายดำ

ข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์พบว่า ในเหง้ากระชายดำมีน้ำมันหอมระเหยแม้กระนั้นเจอในจำนวนน้อย (ราวร้อยละ 1 – 3) น้ำมันหอมระเหยของกระชายดำประกอบด้วยสารเคมีหลายแบบ ดังเช่นว่า 1.8-cineol,camphor, d-borneol และ methyl cinnamate น้ำมันหอมระเหยที่พบส่วนน้อย ยกตัวอย่างเช่น d-pinene, zingiberene , zingiberone, curcumin รวมทั้ง zedoarin ยิ่งกว่านั้น ยังพบสารอื่น เช่น กรุ๊ปไดไฮโดรซาลโคน pincocembrin และกล่มุซาลโคน (อย่างเช่น 2 , 4 , 6-trihydroxy chalcone แล้วก็ cardamonin)(ณาตยา ธนะศรีวัฒนา, สุนิดาในตะกั่วทุ่ง, ธนนันต์ ฐานะจาโร,2540)

สูตรโครงสร้างทางเคมีสารกลุ่ม chalconeที่มา Rein (2005)

สูตรส่วนประกอบทางเคมีสารกรุ๊ป Anthocyanin

ที่มา Castaneda-Ovando et al. (2009)

คุณประโยชน์กระชายดำ

ใช้ชูกำลัง แก้ปวดเมื่อยและก็อาการล้า รวมทั้งเพิ่มสมรรถนะทางเพศขับลม เป็นยาอายุวัฒนะ แก้จุกเสียด แก้เจ็บท้อง หรือโขลกกับเหล้าขาวคั้นน้ำ แก้โรคมดลูกทุพพลภาพ มดลูกหย่อนยาน ใช้ปัดกวาดคอเด็ก แก้โรคตานซางในเด็ก หรือต้มดื่มแก้โรคตา ช่วยบำรุงรักษาฮอร์โมนเพศชาย แก้กามตายด้าน ด้วยการใช้เหง้ากระชายดำสดนำมาดองกับเหล้าขาวแล้วก็น้ำผึ้งแท้ (ในอัตราส่วน 1 กิโล : เหล้าขาว 3 ขวด : น้ำผึ้ง 1 ขวด) ดองทิ้งเอาไว้ราว 9 – 15 วัน แล้วประยุกต์ใช้ดื่มวันละ 1 – 2 เป๊ก (กระชายดำไม่ได้เป็นยาเร้าอารมณ์ทางเพศ แต่ว่าช่วงเวลาการแข็งตัวนานขึ้น แล้วก็สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นก็สามารถรับประทานเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรกขึ้นได้)แม้คุณผู้หญิงทานแล้วจะสามารถช่วยในการปรับสมดุลของฮอร์โมนทางเพศ ช่วยกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง ช่วยสำหรับการนอนหลับ แก้อาการนอนไม่ค่อยหลับในช่วงเวลากลางคืน ช่วยให้นอนหลับ

รูปแบบ , ขนาดวิธีการใช้

สำหรับวิธีการใช้กระชายดำเพื่อเป็นยาอายุวัฒนะ ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง แก้โรคบิด และก็ลมป่วงทุกประเภท

  • ถ้าเกิดเป็นเหง้าสด ให้ใช้ประมาณ 4 – 5 เอามาดองกับเหล้าขาว 1 ขวดก่อนเอามากินเป็นมื้อเย็น ในปริมาณ 30 cc. หรือ จะฝานเป็นแว่นบางๆแช่กับน้ำ หรือเอามาดองกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1:1
  • ถ้าเกิดเป็นเหง้าแห้งก็ให้ใช้ดองกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1 ต่อ นาน 7 วัน แล้วประยุกต์ใช้ดื่มก่อนนอน
  • ถ้าเป็นแบบชงหรือแบบผง ให้ใช้ผงแห้ง 1 ซอง ชงกับน้ำร้านค้า 1 แก้ว (ขนาน 120 cc.) รวมทั้งแต่งรสด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำตาลตามความอยากได้ แล้วเอามาดื่ม

การเล่าเรียนทางเภสัชวิทยาของกระชายดำ

  1. ฤทธิ์ต้านทานอักเสบ สาร 5,7 – ได้การบูชายัญอกซีฟลาโอ้อวดน (5,7-DMF) ที่แยกได้จากเหง้ากระชายดำ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบเปรียบเทียบได้กับยามาตรฐานหลายแบบเป็นแอสไพริน , อินโดความฉลาดซิน , ไฮไดรคอร์ติโซน รวมทั้งเพรดนิโซโลน จากการศึกษาฤทธิ์ต้านอักเสบของสารนี้ ในสัตว์ทดลองด้วยแนวทางต่างๆพบว่าสาร 5,7-DMF สามารถต้านทานการอักเสบแบบฉับพลันได้ดีมากยิ่งกว่าแบบเรื้อรัง โดยแสดงฤทธิ์ยับยั้งการบวมของอุ้งเท้าหนูขาวจากสารติดอยู่ราจีนแนน แล้วก็เคโอลินได้ดีมากว่าฤทธิ์ยั้งการผลิต granuloma จากการฝังสำลีใต้ผิวหนัง ยิ่งกว่านั้น พบว่า สาร 5,7-DMF มีฤทธิ์ยับยั้งการเกิด exudation แล้วก็การสร้างสาร prostaglandin อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบในช่องปอดของหนูขาว (rat pleurisy) (ตระกูลวิวัฒน์ ทัศนียกุล และสุกใส ปั้นทอง,2528)
  2. ฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลินทรีย์ สาร 5,7,4'-trimethoxyflavone และก็ 5,7,3' ,4' –tetramethoxyflavone แสดงฤทธิ์ต่อต้านเชื้อ Plasmodium falciparum ที่เป็นต้นเหตุของโรคมาลาเรีย ส่วนสาร 3,5,7,4'-tetramethoxyflavone แล้วก็ 5,7,4'-trimethoxyflavone แสดงฤทธิ์ต้านทานเชื้อ Candida albicans รวมทั้งแสดงฤทธิ์ต้านทานเชื้อ Mycobacterium อย่างอ่อน (Wattanapitayakui S, Nawinprasert A, Herunsalee A, et al,2003)
  3. พิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็ง (cytotoxic activity) จากการทดลองผลของฟลาโวนอยด์ 9 จำพวกของกระชายดำต่อเซลล์มะเร็ง ได้แก่ KB , BC หรือ NCI-H187 ไม่พบว่ามีสารใดส่งผลให้เกิดพิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็งที่ทดสอบ (ตระกูลพัฒนา ทัศนียกุล รวมทั้งอำไพ ปั้นทอง,2528)
  4. ฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดง มีรายงานการวิจัยว่า สารสกัดด้วยเอธานอลของกระชายดำมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดงใหญ่ (aorta) ละลดการยุบเกร็งของ ลำไส้เล็กส่วนปลาย (ileum) ของหนูขาว และก็ยับยั้งการยึดกรุ๊ปของเกล็ดเลือดของคน.(Yenchai C, Prasaphen K, Doodee S, et al,2004)

การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา

การเรียนพิษเรื้อรังระยะเวลา 6 เดือน ของผงกระชายดำในหนูขาว ในขนาด 20 , 200 , 1000 รวมทั้ง 2000 มก/กก./วัน เทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับน้ำ พบว่า หนูที่ได้รับกระชายดำทุกกรุ๊ปมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น อาการและก็สุขภาพไม่ได้ต่างอะไรจากกลุ่มควบคุมหนูที่ได้รับกระชายดำขนาด 2000 มก/กก. มีน้ำหนักสัมพันธ์ของตับสูงยิ่งกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ อาจเพราะว่ามีน้ำหนักตัวที่ต่ำกว่ากลุ่มควบคุม รวมทั้งมีเม็ดเลือดขาวอิโอสิฟิสที่ได้รับกระชายดำ 2000 มก./กิโลกรัม มีระดับซีรั่มโซเดียมสูงขึ้นยิ่งกว่ากลุ่มควบคุมอย่างเป็นจริงเป็นจังแม้กระนั้นยังอยู่ในตอนค่าปกติ ผลของการตรวจอวัยวะทางจุลพยาธิวิทยานั้นไม่เจอการเปลี่ยนแปลงที่บ่งชี้ว่ากำเนิดความเป็นพิษของกระชายดำ (ทรงพล ชีวะพัฒน์, ณุฉัตรา จันทร์สุการค้า, ปราณี ชวลิตธำรง รวมทั้งแผนก.2547)

ข้อแนะนำ /{ข้อควรระวัง

  • กระชายดำสามารถกินได้อีกทั้งหญิง แล้วก็ชายโดยไม่เกิดผลข้างๆอะไรก็แล้วแต่ยิ่งสำหรับผู้สูงวัยก็พบว่านิยมใช้กันมานานมากแล้ว
  • ผลข้างเคียงของกระชายดำ การกินในขนาดสูง อาจจะเป็นผลให้เกิดอาการใจสั่นได้
  • ห้ามใช้กระชายดำในเด็ก แล้วก็ในผู้เจ็บป่วยที่เป็นโรคตับ
  • การรับประทานเหง้ากระชายดำต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน อาจจะเป็นผลให้เหงือกร่น
  • แม้ว่าจะมีงานค้นคว้าในสัตว์ทดสอบที่กล่าวว่ากระชายดำไม่พบว่ามีความเป็นพิษ แต่ยังไม่มีรายงานการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเพื่อประเมินประสิทธิผล ของการใช้กระชายดำในคนจึงควรรับประทานในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ประโยชน์กระชายดำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หญิงจำเป็นต้องรักษาสุขภาพด้วยสมุนไพรว่านชักมดลูก

สรรพคุณอันน่าทึ่ง 35 ประการของว่านชักมดลูก ขายว่านชักมดลูก มีความปลอดภัยมากยิ่งกว่า กวาวเครือขาว และยังช่วยทำให้ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น  ...