วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2560

อัศจรรย์สรรพคุณสมุนไพรกวาวเครือเเดงสำหรับท่านชาย

กวาวเครือแดง ประโยชน์สรรพคุณและงานวิจัยข้อดีข้อเสีย

ชื่อสมุนไพร  กวาวเครือแดง
ชื่อประจำถิ่น  กวาวเครือ (เหนือ)   จานเครือ  (อีสาน)   ตานจอมทอง  (ชุมพร)  โพตะกุ , โพมือ  (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Butea superba  Roxb
ชื่อวงศ์  Leguminosae  วงค์ย่อย   Papilonaceae

ถิ่นกำเนิดกวาวเครือเเดง

พบอยู่มากในบริเวณที่ราบตีนเขา รวมทั้ง ตีนเขาป่าเต็งรัง  ภูเขาหินปูน  ในรอบๆที่มีต้นไม้ต้นไม่หนาแน่นนัก  พบบ่อยอยู่เป็นกรุ๊ปๆด้านในป่า  อาจเกิดขึ้นเนื่องจากต้นสายปลายเหตุ เป็น ติดฝักได้น้อย  ฝักมีขนาดใหญ่ ทำให้แพร่กระจายตำแหน่งเดิมได้ยาก  ต้นกวาวเครือแดง ที่สร้างพุ่มไม้เอง จะมีลักษณะเตี้ย  ส่วนต้นที่เกี่ยวพันกับต้นไม้ใหญ่จะแตกกิ่งไปถึงยอดไม้

ลักษณะทั่วไปของกวาวเครือแดง

กวาวเครือแดงอยู่ในจำพวกไม้เลื้อย เป็นเถาวัลย์ เนื้อแข็ง มักชอบพาดขึ้นกับต้นไม้ใหญ่

  • ใบกวาวเครือแดง ใบใหญ่เหมือนใบต้นทองกวาว  แม้กระนั้นใบใหญ่กว่า
  • ดอกกวาวเครือแดง ดอกใหญ่เหมือนดอกแคแสด  แต่เป็นพวงระย้าเหมือนดอกทองกวาว
  • หัวกวาวเครือแดง มีหลายขนาดลักษณะทรงกระบอก เมื่อสะกิดที่เปลือก จะมียางสีแดง เหมือนเลือดไหลออกมา
  • รากกวาวเครือแดง มีรากกิ้งก้านขนาดใหญ่  แยกจากเหง้าเลื้อยไปบริเวณหลายเมตร 

การขยายพันธุ์กวาวเครือแดง ทำได้ 3วิธีดังนี้|ดังต่อไปนี้

  • การเพาะเมล็ด โดยการเพาะเมล็ดในกระบะเถ้าแกลบราวๆ 45 วัน นำต้นกล้าที่ได้ ปลูกลงถุงเพาะชำโดยใช้ดิน 2 ส่วน เถ้าถ่านแกลบ 1 ส่วน เปลือกมะพร้าว 1 ส่วน ค่า pH ราวๆ 5.5 เมื่อต้นกล้าเติบโตได้ 60 วัน จึงนำลงแปลงปลูกกลางแจ้ง  โดยทำด้วยไม้ไผ่  หรือปลูกร่วมกับไม้ยืนต้นในแนวทางการเกษตร ได้แก่ ไผ่  สัก  ปอสา  หรือไม้ผลอื่นๆ พื้นที่ปลูกควรจะอยู่สูงยิ่งกว่าระดับน้ำทะเล  300-900 เมตร
  • การปักชำ นำเถาที่มีข้อมาปักชำในกระบะ หรือถุงที่บรรจุขี้เถ้าแกลบ  เมื่อเถาแตกรากรวมทั้งยอดแข็งแรงก็ดี ก็เลยนำลงแปลงปลูกถัดไป
  • การแบ่งหัวต่อต้น หัวของกวาวเครือ ไม่มีตาที่จะแตกเป็นต้นใหม่  จำเป็นต้องใช้ส่วนของลำต้นมาต่อเชื่อตามวิธีการขยายพันธุ์แบบต่อราก  เลี้ยงกิ่ง (nursed root grafting)  สามารถนำหัวกวาวเครือขนาดเล็ก อายุราวๆ 6 ข้างขึ้นไป  และก็ต้นหรือเถาที่เคยทิ้งไปหลังการเก็บเกี่ยวมาขยายพันธุ์ได้ หลังการต่อต้นราว 45-60 วัน ก็สามารถนำลงปลูกได้ แล้วก็มีคุณลักษณะเด่นก็คือสามารถต่อต้นกับหัวผ่านสายพันธุ์ได้

องค์ประกอบทางเคมีของกวาวเครือแดง

            ส่วนหัวของกวาวเครือแดงประกอบด้วยสารไฟโตแอนโดรเจน แล้วก็ไอโซฟลาโวลิกแนน 2 จำพวก อาทิเช่น Mebicarpin (carpin 3-hydroxy-9methoxypterocarpan); สารกรุ๊ปฟลาโวนอยด์ เช่น butenin; formononetin (7-hydroxy_-methoxy-isoflavone); (7,4_-dimethoxyisoflayone); 5,4_-dihydroxy-7-methoxy-isoflavone, 7-hydroxy-6,4_-dimethoxyisoflavone

แอนโทไซยานินมีค่าการดูดกลืนแสงสว่างในตอนคลื่น  510-540นาโนเมตร  สารละลายแอนโทไซยานินมีความเคลื่อนไหวสีตามค่าความเป็นด่าง (pH) ต่ำจะมีสีแดง pH ปานกลางจะมีสีน้ำเงินม่วงรวมทั้งเมื่อ pH สูงจะมีสีเหลืองซีด

สรรพคุณกวาวเครือแดง

  • หัวกวาวเครือแดง รสเย็นเบื่อเมา  บำรุงเนื้อหนังให้เต่งตึง  บำรุงสุขภาพ  เพิ่มจำนวนสเปิร์ม เป็นยาอายุวัฒนะ

แก้เมื่อยตามร่างกาย

  • รากกวาวเครือแดง แก้ลมอัมพาต  บำรุงเลือด  ผสมกับรากสมุนไพรอื่นอีก 8 จำพวกเรียกว่า  พิกัดนวโลหะ  แก้โรคลมที่เป็นพิษ  แก้ริดสีดวง  ทำลายพยาธิ  ดับพิษ  ทำลายพิษไข้  สมานลำไส้
  • เปลือกเถากวาวเครือแดง รสเย็นเบื่อเมา  แก้พิษงู

ผลดีกวาวเครือแดง

ฤทธิ์ต่อระบบขยายพันธุ์  การศึกษาเล่าเรียนในอาสาสมัครเพศชาย 17 คน อายุระหว่าง 30 – 70 ปี ที่มีลักษณะอาการหย่อนยานสมรรถนะทางเพศอย่างน้อย 6 เดือน  ให้กินกวาวเครือแดงขนาด 250 มก./แคปซูล วันละ 4 แคปซูล เป็นเวลา 3 เดือน ผลการศึกษาพบว่าระดับฮอร์โมน testosterone ไม่ต่างอะไรจากกรุ๊ปควบคุม  แม้กระนั้นผลจาการตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับดัชนีชี้วัดสมรรถภาพทางเพศ  จากอาสาสมัครพบว่าทำให้ความสามารถทางเพศ  82.4 % โดยเหตุนี้ กวาวเครือแดงจึงช่วยฟื้นฟูผู้เจ็บป่วยโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ และไม่พบการเกิดพิษ

รูปแบบและขนาดวิธีใช้กวาวเครือแดง

องค์การอาหารและยาของไทย  ระบุขนาดและวิธีการใช้สำหรับในการรับประทานกวาวเครือแดง  ไม่เกิน  2 มก.  ต่อน้ำหนักตัว  1  กิโล  ต่อวัน

การศึกษาทางเภสัชวิทยาของกวาวเครือแดง

ฤทธิ์ต่อระบบสืบพันธุ์  การทดลองป้อนกวาวเครือแดงในรูปผงป่นละลายน้ำ  แล้วก็สารสกัดเอทานอล  ให้แก่หนูแรทเพศผู้  ความเข้มข้น 0.25 , 0.5 แล้วก็ 5 มก./มิลลิลิตร  พบว่าหนูแรทที่ได้รับผงกวาวเครือแดงแบบละลายน้ำเข้มข้น 0.5 และก็ 5 มก./มิลลิลิตร เป็นเวลา  21  วัน  ทำให้น้ำหนักตัวของหนูแรท  แล้วก็จำนวนน้ำอสุจิมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ  และก็หนูแรทที่ได้รับสารสกัดเอทานอลเข้มข้น 5 มิลลิกรัม/มล. 224 ชั่วโมง มีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles ต่อมลูกหมาก  และความยาวขององคชาติ  ส่งผลให้หนูแรทมีความประพฤติการสิบประเภทมากขึ้น  เมื่อศึกษาต่อไปถึงระยะ 42 วัน พบว่าหนูแรทที่ได้รับผงกวาวเครือแดงแบบละลายน้ำ มีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles ต่อมลูกหมาก แล้วก็ความยาวขององคชาติ  รวมทั้งความประพฤติการขยายพันธุ์เยอะขึ้นเรื่อยๆ  แต่หนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดเอทานอล  กลับมีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles  น้อยลง  การศึกษาเล่าเรียนผลของกวาวเครือแดงในระยะยาว  และในปริมาณสารสกัดที่มากขึ้น  พบว่าทำให้ระดับฮอร์โมน testosterone ของหนูแรทน้อยลง  รวมทั้งปริมาณเอนไซม์ตับสูงขึ้น  ด้วยเหตุนี้การกินกวาวเครือแดงมากจนเกินความจำเป็น อาจจะเป็นผลให้เกิดพิษต่อตับได้

การศึกษาทางพิษวิทยากวาวเครือแดง

การศึกษาเล่าเรียนพิษครึ่งหนึ่งเรื้อรังในหนูวิสตาร์เพศผู้โดยป้อนผงกวาวเครือแดงในขนาด 10 , 100 , 150 และก็ 200  มก./กก/วัน  เป็นเวลา 90 วัน  พบว่าหนูที่รับในขนาด   150  มิลลิกรัม/กก/วัน  น้ำหนักของม้ามเพิ่มขึ้น ระดับเอนไซม์ alkalinephosphatase (ALP) แล้วก็ aspartate aminotransferase (AST) มากขึ้น หนูที่ได้รับขนาด 200 มิลลิกรัม/กก/วัน พบว่ามีเม็ดเลือดขาวประเภท neutrophil ต่ำลง ส่วนเม็ดเลือดขาวจำพวก eosinophil ระดับ serum creatinine  ลดลงระดับฮอร์โมน testosterone ต่ำลง ด้วยเหตุดังกล่าวควรต้องรอบคอบการใช้ในขนาดสูงเนื่องด้วยอาจจะเป็นผลให้เกิดอาการอันไม่ประสงค์ต่างๆได้

ข้อแนะนำข้อควรระวัง

พืชชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นยา เหมือนกันกับกวาวเครือขาว แต่ว่ามีพิษมากกว่า  หากรับประทานมากมายบางทีอาจก่อให้เกิดอันตรายได้อาจจะเป็นผลให้มึนเมาคลื่นไส้คลื่นไส้.และเป็นพิษเมามากกว่ากวาวเครือขาว

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ประโยชน์กวาวเครือเเดง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หญิงจำเป็นต้องรักษาสุขภาพด้วยสมุนไพรว่านชักมดลูก

สรรพคุณอันน่าทึ่ง 35 ประการของว่านชักมดลูก ขายว่านชักมดลูก มีความปลอดภัยมากยิ่งกว่า กวาวเครือขาว และยังช่วยทำให้ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น  ...