ขายลูทีน (Lutein) สุดยอด วิตามิน บำรุงสายตา
ขายลูทีน การมองมองเห็นถือเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่มีความหมายต่อมนุษย์เราเป็นอย่าง ยิ่ง รวมทั้งอวัยวะที่เป็นตัวรับภาพต่างๆจากด้านนอกให้เราได้รับรู้ก็คือดวงตา กลไกสำหรับในการแลเห็นก็คือ เมื่อมีแสงสว่างตกกระทบกับวัตถุ แสงสว่างขายส่งลูทีนจะสะท้อนเข้าสู่ดวงตาเราผ่านกระจกตา รูม่านตา แก้วตา แล้วก็ไปตกที่จอภาพตาในลักษณะของภาพหัวกลับแล้วจึงถูกส่งไปแปลเป็นภาพที่เรา มองเห็นจริงในระบบประสาทส่วนท้ายทอย สารอาหารจำเป็นจะต้องสำหรับดวงตา ขายลูทีนมีอยู่หลากหลายประเภท ร่วมกันเป็นวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมทั้งสารอาหารที่มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยอย่างมากมายว่ามีสาระกับดวงตาโดยตรงก็ คือ ลูทีน รวมทั้ง ขายลูทีน (Lutein) และก็ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)เป็นสารธรรมชาติที่มีในผักผลไม้หลายแบบ เป็นสารในเครือญาติของสารแคโรทีนอยด์ และพบได้ในบริเวณดวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณเลนส์ตาและก็จอสำหรับรับภาพตาในธรรมชาติแม้ว่าจะมีแคโรทีนอยด์ มากยิ่งกว่า 600 จำพวก แม้กระนั้นมีเพียงสาร 2 จำพวกนี้แค่นั้น ที่พบในจุดรับภาพของเรตินา สารทั้งสองจำพวกนี้จะปฏิบัติภารกิจช่วยกรองหรือคุ้มครองป้องกันขายลูทีนรังสีจากแสงแดดที่เป็น อันตรายต่อดวงตา รวมทั้งช่วยคุ้มครองป้องกันเซลล์ของหน้าจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยการลดอนุมูลอิสระ เพราะฉะนั้น จึงทำหน้าที่บำรุงตา ทำให้เรตินาไม่เสื่อมเร็ว ด้วยเหตุผลดังกล่าวคนใดกันแน่ที่อยากถนอมสายตาไว้ ใช้งานนานๆก็ต้องทานผักและก็ทานผลไม้ สีเหลือง และก็สีเขียวเข้มมีการขายลูทีนทั่วๆไป รวมทั้งยังมีแหล่งที่พบ ลูทีน รวมทั้ง ซีแซนทีน ในธรรมชาตินอกเหนือจาก จะพบได้มากในดอกดาวเรือง และก็โกจิเบอร์ปรี่(เก๋ากี้) แล้ว ยังเจอใน กะหล่ำ ผักโขม ถั่วลันเตา ต้นอ่อนกะหล่ำดาว ถั่วพิสตาชิโอ บรอคอยกโคลี ข้าวโพด ไข่ แครอท ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม ผักโขม แตงกวาทั้งยังเปลือก ซูกินีทั้งยังเปลือก ถั่วแขก อะโวคาโด มัสตาร์ด ฟักทอง ฯลฯการบริโภคผักที่มีการรับผลิตลูทีนรวมทั้งชีแซนทีน หรือแม้กระทั้งอาหารสุขภาพที่มีสาระสำคัญนี้ ก็เลยมีคุณประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพของดวงตา มีส่วนช่วยลดการเสี่ยงการเกิดโรคหลายอย่างร่วมกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก แล้วก็โรคจุดรับภาพเสื่อมโดยสรุปแล้ว ลูทีน (Lutein) จะช่วยให้ตาค้างแรง คุ้มครองป้องกันประสาทตาเสื่อม เสริมสร้างการมองมองเห็นโดยช่วยคุ้มครองป้องกันการเสื่อมของ Macular ที่จุดเล็กๆกึ่งกลางของที่รับแสงในตา (Retina) อันเป็นส่วนสาคัญของ Main pigment (สี) ในฉากรับแสงสว่างของตา ป้องกันขายส่งลูทีนไม่ให้แสงแดดทำลายเรตินา คุ้มครองโรคจุดรับภาพเสื่อม หรือจอประสาทตาเสื่อม AMD (Age – Related Macular Degeneration) ช่วยคุ้มครองแคปซูลลูทีนและก็ลดลักษณะของโรคต้อกระจก (Cataracts) ต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์ตา ทำให้เซลล์แข็งแรง ช่วยชะลอความเสื่อมของตา แล้วก็เพิ่มสมรรถนะสำหรับในการเห็นได้ดิบได้ดีในที่มืดได้ดีขึ้น
ขายลูทีน การกินสารในกลุ่มแคโรทีนในปริมาณที่สูงที่สุดจะมีอัตราเสี่ยงต่ำลงยิ่งกว่าปริมาณร้อยละ 43 สำหรับภาวการณ์การเสื่อมของจอประสาทตาตามอายุอย่างกระทันหัน เมื่อเปรียบการกินในจำนวนที่ต่ำที่สุด จากการเล่าเรียนกลุ่มตัวอย่างปริมาณ 876 คนซึ่งมีอายุ ระหว่าง 55-80 ปี การได้รับลูทีนและซีซานทีน ในอัตราสูงจะช่วยลดความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อมอย่างเฉียบพลันได้
ส่วนประกอบสำคัญ
ทอลีน
เบต้าแคโรทีน
วิตามิน บี2
สารสกัดบิลเบอร์รี่
สารสกัดดอกดาวเรือง (มีลูทีนและซีแซนทีน)
สารสกัดใบแปะก๊วย
ขายส่งลูทีน จำหน่ายลูทีน แคปซูลลูทีน รับผลิตลูทีน ลูทีน(Lutein) และ ซีแซนทีน(Zeaxanthin)
สรรพคุณลูทีน ช่วยบำรุงสายตา ทำหน้าที่ช่วยให้มองภาพได้คมชัด
และเห็นรายละเอียดของภาพดีขึ้นช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด
และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตาช่วยให้ดวงตาแข็งแรง
ป้องกันประสาทตาเสื่อม
สรรพคุณอื่นๆ
สรรพคุณเถาวัลย์เปรียง
เถาวัลย์เปรียงตามตำราไทยว่าทำให้เอ็นอ่อนลง แก้เอ็นพิการ และก็แก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้าตามร่างกาย ซึ่งชาวบ้านประยุกต์ใช้เป็นยารักษาบรรเทาลักษณะของการปวดปวดเมื่อยร่างกายมานานแล้วรับขายลูทีน
ตำรายาประจำถิ่น: ใช้เถา ขับฉี่ แก้บิด แก้หวัด ใช้เถาคั่วไฟให้หอมชงน้ำดื่มแก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว แก้เส้นเอ็นพิการ แก้เมื่อยขบในร่างกาย แก้กระษัยเหน็บชา ต้มรับประทานถ่ายเส้น ถ่ายกระษัย แก้เส้นเอ็นขอด ถ่ายเสมหะ ไม่ถ่ายอุจจาระรับผลิตลูทีนเหมาะที่จะใช้ในโรคบิด ไอ หวัด ใช้ในเด็กก้าวหน้า แก้ปวด แก้ไข้ ทำให้เอ็นอ่อนลง ขับเยี่ยว แก้ปัสสาวะพิการ บางตำราขายส่งลูทีนบอกว่าทำให้มีพอดีแข็งแรงสู้ไม่ถอย
o เป็นสมุนไพรที่มีการประยุกต์ใช้ในสูตรยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยใช้เป็นส่วนประกอบเพิ่มอีกจากสูตรยาอบสมุนไพรหลัก เมื่ออยากอบเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยล้า ปวดหลัง ปวดเอว เป็นต้น
o เถามีรสเฝื่อนแคปซูลลูทีนเหม็นเบื่อ ใช้ต้มรับประทานเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะไม่ปกติ แก้เยี่ยวกระปริบกะปรอย ส่วนรากมีรสฝาดเหม็นเบื่อมีสรรพคุณเป็นยาขับเยี่ยวรับผลิตลูทีนเหมือนกัน (เถา,ราก)รวมทั้งยังมีข้อมูลบอกว่าการใช้สมุนไพรจำพวกนี้จะมีผลให้ปัสสาวะได้บ่อยครั้งกว่าปกติ จึงอาจขายลูทีนมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตด้วย
o คนสมัยเก่าจะนิยมใช้เถาของเถาวัลย์เปรียงเพื่อเป็นยารักษาอาการตกขาวของสตรี (อาการตกขาวชนิดที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน ไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียว) (เถา)
o เถามีคุณประโยชน์สำหรับการบีบมดลูก (เถา)ขายเห็ดหลินจือ
รูปแบบ ขนาดวิธีการใช้ บัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชียาจากสมุนไพร 2556 ยาปรับปรุงจากสมุนไพร กรุ๊ปยารักษากลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูก กำหนดรับผลิตลูทีนรูปแบบและขนาดวิธีใช้ยาดังนี้
- ขับโลหิตเสียของสตรี ด้วยการใช้เถาวัลย์เปรียงอีกทั้งห้าแบบสดๆเอามาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ดื่มต่างน้ำ (ทั้งห้า)แคปซูลลูทีน
- ทำให้มดลูกเข้าอู่ ด้วยการใช้เถาสดเอามาทุบให้ยุ่ย แล้ววางทาบลงบนท้อง แล้วนำหม้อเกลือที่ร้อนมานาบลงไปบนเถาวัลย์เปรียง จะช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น
- ใช้เถาเอามาหั่นตากแห้งคั่วชงน้ำดื่มต่างชาเป็นยาทำให้เส้นหย่อนยาน แก้อาการเมื่อยขบตามร่างกาย แก้อาการปวดเมื่อยล้า แก้เหน็บชา (เถา)
- ใช้เถาเพื่อรักษาโรคอัมพฤกษ์และกระดูกหัก โดยการนำเถามาตำให้เป็นผุยผงผสมกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันหัวครำ แล้วก็ใช้เป็นยาทานวดรอบๆที่เป็นทุกวี่ทุกวันจนถึงหาย (เถา)ยาเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูล (โรงพยาบาล)ข้อบ่งใช้ : ทุเลาอาการปวดกล้าม ลดการอักเสบของกล้ามขนาดและวิธีใช้ : รับประทานทีละ 500 มก. – 1 กรัม วันละ 3 ครั้งแคปซูลลูทีน หลังรับประทานอาหารในทันทีสิ่งที่ห้ามใช้ : ห้ามใช้ในหญิงมีท้องยาสารสกัดจากเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูลข้อบ่งใช้ : ทุเลาลักษณะของการปวดข้างหลังส่วนล่าง (low back pain) และก็อาการปวดจากข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)ขนาดรวมทั้งวิธีใช้ : รับประทานครั้งละ 400 มก. วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารในทันทีสิ่งที่ไม่อนุญาตใช้ : ห้ามใช้กับหญิงตั้งครรภ์ยาเถาวัลย์เปรียง(แคปซูล) 400 mg (บัญชีร่วม รพสต.)ข้อบ่งใช้ : แก้ข้ออักเสบ ลดการอักเสบของกล้าม กล้ามเกร็ง OAขนาดรวมทั้งการใช้ : รับประทานทีละ 2*3PC (500Mg.– 1g.) วันละ 4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารในทันทีสิ่งที่ห้ามใช้ : ห้ามใช้ในหญิงท้องรับผลิตลูทีน
สรรพคุณชะพลู
ชะพลูด้านการใช้เป็นของกิน ใบชะพลูมีรสหวาน เย็น และกลิ่นหอมหวนที่เป็นเอกลักษณ์ จึงนิยมเอามาปรุงอาหารได้มากมายรายการอาหาร หน้าที่ของชะพลูในจานอาหารครอบครัวพื้นเมืองมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวขายลูทีนเริ่มตั้งแต่เป็นผักสดที่นิยมรับประทานกับของกินรสแซบทั้งหลาย ยกตัวอย่างเช่น ลาบ ก้อย น้ำตก เนื้อย่าง ปลาย่าง ตลอดจนน้ำพริกต่างๆชะพลูเป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในอาหารจานพื้นเมืองต่างๆแกงแคของภาคเหนือซึ่งถึงกับเรียกใบชะพลูว่า”ใบผักแค” เลยทีเดียว หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าใช้ใบชะพลูเป็นเครื่องปรุงเฉพาะตัว จึงเรียกแกงนั้นว่าแกงแค เป็นได้สิ่งเดียวกันแคปซูลลูทีนส่วนภาคอีสารนิยมใส่ไว้ด้านในแกงอ่อมต่างๆแกงขนุนอ่อน แกงหัวปลี ภาคใต้ใช้แกงกะทิใบชะพลูกับหอยแครง ส่วนภาคกลางนิยมใส่แกงคั่วหอยขม นิยมนำมารับประทานร่วมกับข้าวมันตำส้ม จำพวกที่เรียกว่าถ้าเกิดขาดใบชะพลู รสของข้าวมันส้มตำก็อร่อยไปเลย รสชาติใบชะพลูในขณะที่กัดและบดกินจะมีกลิ่นหอมยวนใจในขว้างรสจัด บดนานๆจะได้รสเผ็ดอ่อนๆใบชะพลูขนาดกำลังอร่อยจะต้องเป็นใบที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนกระทั่งเกินความจำเป็น ใบก็เลยจะนุ่ม หอม รวมทั้งเผ็ดพอดี แม้กระนั้น ใบชะพลูกินได้ทุกขนาดอายุของมัน รับผลิตลูทีนแม้แก่มากก็กินได้ เพราะเส้นใยไม่ถึงกับเหนียวกระทั่งกัดไม่ขาด ก็แค่ใบจะหยาบคายสักหน่อย รวมทั้งกลิ่นจะฉุดน้อย
ในใบชะพลูมีสารอนุภาคบีตา-แคโรทีนสูงมาก ใบเอามารับประทานกับเมี่ยงคำ เอามาแกงใส่น้ำกะทิ ข้าวยำ ห่อหมก หรือเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทางภาคใต้ใส่ไว้ภายในแกงกะทิหอยขม แกงคั่วปูในจังหวัดเมืองจันท์ใส่ไว้ภายในรับผลิตลูทีนแกงป่าปลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น