วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

ข้อเเนะนำ/ข้อพึงระวังกวาวเครือเเดง

กวาวเครือแดง ประโยชน์สรรพคุณและงานวิจัยข้อดีข้อเสีย

ชื่อสมุนไพร  กวาวเครือแดง
ชื่อประจำถิ่น  กวาวเครือ (เหนือ)   จานเครือ  (อีสาน)   ตานจอมทอง  (ชุมพร)  โพตะกุ , โพมือ  (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Butea superba  Roxb
ชื่อวงศ์  Leguminosae  วงค์ย่อย   Papilonaceae

ถิ่นกำเนิดกวาวเครือเเดง

เจออยู่มากมายในบริเวณที่ราบตีนเขา และ ตีนเขาป่าเต็งรัง  ภูเขาหินปูน  ในรอบๆที่มีต้นไม้ต้นไม่หนาแน่นนัก  มักพบอยู่เป็นกลุ่มๆด้านในป่า  อาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากปัจจัย คือ ติดฝักได้น้อย  ฝักมีขนาดใหญ่ ทำให้แพร่ตำแหน่งเดิมได้ยาก  ต้นกวาวเครือแดง ที่สร้างพุ่มไม้เอง จะมีลักษณะเตี้ย  ส่วนต้นที่เกี่ยวข้องกับต้นไม้ใหญ่จะแตกกิ่งไปถึงยอดไม้

ลักษณะทั่วไปของกวาวเครือแดง

กวาวเครือแดงอยู่ในจำพวกไม้เลื้อย เป็นเถาวัลย์ เนื้อแข็ง มักชอบพาดขึ้นกับต้นไม้ใหญ่

  • ใบกวาวเครือแดง ใบใหญ่คล้ายใบต้นทองกวาว  แม้กระนั้นใบใหญ่มากยิ่งกว่า
  • ดอกกวาวเครือแดง ดอกใหญ่เหมือนดอกแคแสด  แต่ว่าเป็นพวงระย้าราวกับดอกทองกวาว
  • หัวกวาวเครือแดง มีหลายขนาดลักษณะทรงกระบอก เมื่อสะกิดที่เปลือก จะมียางสีแดง เหมือนเลือดไหลออกมา
  • รากกวาวเครือแดง มีรากแขนงขนาดใหญ่  แยกจากเหง้าเลื้อยไปบริเวณหลายเมตร 

การขยายพันธุ์กวาวเครือแดง ทำได้ 3วิธีดังนี้|ดังต่อไปนี้

  • การเพาะเม็ด โดยการเพาะเม็ดในกระบะเถ้าแกลบราวๆ 45 วัน นำต้นกล้าที่ได้ ปลูกลงถุงเพาะชำโดยใช้ดิน 2 ส่วน ขี้เถ้าแกลบ 1 ส่วน เปลือกมะพร้าว 1 ส่วน ค่า pH ราวๆ 5.5 เมื่อต้นกล้าเจริญวัยได้ 60 วัน จึงนำลงแปลงปลูกกลางแจ้ง  โดยการทำด้วยไม้ไผ่  หรือปลูกร่วมกับไม้ยืนต้นในแนวทางการเกษตร อาทิเช่น ไผ่  สัก  ปอสา  หรือไม้ผลอื่นๆ พื้นที่ปลูกควรจะอยู่สูงยิ่งกว่าระดับน้ำทะเล  300-900 เมตร
  • การปักชำ นำเถาที่มีข้อมาปักชำในกระบะ หรือถุงที่บรรจุเถ้าถ่านแกลบ  เมื่อเถาแตกรากและก็ยอดแข็งแรงก็ดีแล้ว ก็เลยนำลงแปลงปลูกถัดไป
  • การแบ่งหัวต่อต้น หัวของกวาวเครือ ไม่มีตาที่จะแตกเป็นต้นใหม่  จำเป็นที่จะต้องใช้ส่วนของลำต้นมาต่อเชื่อตามกรรมวิธีขยายพันธุ์แบบต่อราก  เลี้ยงกิ่ง (nursed root grafting)  สามารถนำหัวกวาวเครือขนาดเล็ก อายุราว 6 เดือนขึ้นไป  และต้นหรือเถาที่เคยทิ้งไปหลังการเก็บเกี่ยวมาขยายพันธุ์ได้ หลังการต่อต้นโดยประมาณ 45-60 วัน ก็สามารถนำลงปลูกได้ แล้วก็มีข้อดีก็คือสามารถต่อต้นกับหัวผ่านสายพันธุ์ได้

องค์ประกอบทางเคมีของกวาวเครือแดง

            ส่วนหัวของกวาวเครือแดงมีสารไฟโตแอนโดรเจน และไอโซฟลาโวลิกแนน 2 ประเภท อาทิเช่น Mebicarpin (carpin 3-hydroxy-9methoxypterocarpan); สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ ยกตัวอย่างเช่น butenin; formononetin (7-hydroxy_-methoxy-isoflavone); (7,4_-dimethoxyisoflayone); 5,4_-dihydroxy-7-methoxy-isoflavone, 7-hydroxy-6,4_-dimethoxyisoflavone

แอนโทไซยานินมีค่าการดูดกลืนแสงสว่างในช่วงคลื่น  510-540นาโนเมตร  สารละลายแอนโทไซยานินมีการเปลี่ยนแปลงสีตามค่าความเป็นด่าง (pH) ต่ำจะมีสีแดง pH ปานกลางจะมีสีน้ำเงินม่วงและก็เมื่อ pH สูงจะมีสีเหลืองซีด

สรรพคุณกวาวเครือแดง

  • หัวกวาวเครือแดง รสเย็นเบื่อเมา  บำรุงเนื้อหนังให้เต่งตึง  บำรุงสุขภาพ  เพิ่มน้ำเชื้อ เป็นยาอายุวัฒนะ

แก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตามร่างกาย

  • รากกวาวเครือแดง แก้ลมอัมพาต  บำรุงโลหิต  ผสมกับรากสมุนไพรอื่นอีก 8 ประเภทเรียกว่า  พิกัดนวโลหะ  แก้โรคลมที่เป็นพิษ  แก้ริดสีดวง  ทำลายพยาธิ  ดับพิษ  ทำลายพิษไข้  สมานไส้
  • เปลือกเถากวาวเครือแดง รสเย็นเบื่อเมา  แก้พิษงู

ผลดีกวาวเครือแดง

ฤทธิ์ต่อระบบแพร่พันธุ์  การศึกษาเล่าเรียนในอาสาสมัครผู้ชาย 17 คน อายุระหว่าง 30 – 70 ปี ที่มีอาการหย่อนสมรรถนะทางเพศขั้นต่ำ 6 เดือน  ให้รับประทานกวาวเครือแดงขนาด 250 มก./แคปซูล วันละ 4 แคปซูล เป็นเวลา 3 เดือน ผลการศึกษาเรียนรู้พบว่าระดับฮอร์โมน testosterone ไม่ได้แตกต่างจากกรุ๊ปควบคุม  แต่ผลจาการตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับดัชนีชี้วัดสมรรถนะทางเพศ  จากอาสาสมัครพบว่าทำให้สมรรถนะทางเพศ  82.4 % ด้วยเหตุดังกล่าว กวาวเครือแดงจึงช่วยฟื้นฟูคนป่วยโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ และไม่พบการเกิดพิษ

รูปแบบและขนาดวิธีใช้กวาวเครือแดง

หน่วยงานของกินรวมทั้งยาของไทย  เจาะจงขนาดรวมทั้งวิธีใช้สำหรับการรับประทานกวาวเครือแดง  ไม่เกิน  2 มิลลิกรัม  ต่อน้ำหนักตัว  1  กิโล  ต่อวัน

การศึกษาทางเภสัชวิทยาของกวาวเครือแดง

ฤทธิ์ต่อระบบสืบพันธุ์  การทดสอบป้อนกวาวเครือแดงในรูปผงป่นละลายน้ำ  และก็สารสกัดเอทานอล  ให้แก่หนูแรทเพศผู้  ความเข้มข้น 0.25 , 0.5 และก็ 5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร  พบว่าหนูแรทที่ได้รับผงกวาวเครือแดงแบบละลายน้ำเข้มข้น 0.5 รวมทั้ง 5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร เป็นเวลา  21  วัน  ทำให้น้ำหนักตัวของหนูแรท  รวมทั้งจำนวนอสุจิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ  และหนูแรทที่ได้รับสารสกัดเอทานอลเข้มข้น 5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร 224 ชั่วโมง มีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles ต่อมลูกหมาก  รวมทั้งความยาวขององคชาติ  นำมาซึ่งการทำให้หนูแรทมีพฤติกรรมการสิบจำพวกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เมื่อศึกษาต่อไปถึงระยะ 42 วัน พบว่าหนูแรทที่ได้รับผงกวาวเครือแดงแบบละลายน้ำ มีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles ต่อมลูกหมาก รวมทั้งความยาวขององคชาติ  และก็การกระทำการสืบเผ่าพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ  แม้กระนั้นหนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดเอทานอล  กลับมีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles  น้อยลง  การเรียนรู้ผลของกวาวเครือแดงในระยะยาว  และก็ในจำนวนสารสกัดที่มากขึ้น  พบว่าทำให้ระดับฮอร์โมน testosterone ของหนูแรทน้อยลง  และก็ปริมาณโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีตับสูงมากขึ้น  ด้วยเหตุนั้นการรับประทานกวาวเครือแดงมากจนเกินไป อาจจะทำให้กำเนิดพิษต่อตับได้

การศึกษาทางพิษวิทยากวาวเครือแดง

การเรียนพิษกึ่งเรื้อรังในหนูวิสตาร์เพศผู้โดยป้อนผงกวาวเครือแดงในขนาด 10 , 100 , 150 แล้วก็ 200  มิลลิกรัม/กก/วัน  ตรงเวลา 90 วัน  พบว่าหนูที่รับในขนาด   150  มก./กก/วัน  น้ำหนักของม้ามมากขึ้น ระดับเอนไซม์ alkalinephosphatase (ALP) และ aspartate aminotransferase (AST) เพิ่มขึ้น หนูที่ได้รับขนาด 200 มก./กก/วัน พบว่ามีเม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil ลดลง ส่วนเม็ดเลือดขาวจำพวก eosinophil ระดับ serum creatinine  ลดลงระดับฮอร์โมน testosterone ลดลง เพราะฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังการใช้ในขนาดสูงเพราะเหตุว่าอาจก่อให้เกิดอาการอันไม่ปรารถนาต่างๆได้

ข้อแนะนำข้อควรระวัง

พืชจำพวกนี้มีฤทธิ์เป็นยา เหมือนกันกับกวาวเครือขาว แต่เป็นพิษมากยิ่งกว่า  แม้กินมากมายอาจทำให้เป็นอันตรายได้อาจจะเป็นผลให้เมาอ้วกอาเจียน.รวมทั้งมีพิษเมามากกว่ากวาวเครือขาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หญิงจำเป็นต้องรักษาสุขภาพด้วยสมุนไพรว่านชักมดลูก

สรรพคุณอันน่าทึ่ง 35 ประการของว่านชักมดลูก ขายว่านชักมดลูก มีความปลอดภัยมากยิ่งกว่า กวาวเครือขาว และยังช่วยทำให้ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น  ...